เมื่อนักวิจัยเกิดข้อสงสัยหรือต้องการรู้ความจริงในเรื่องเรื่องที่กำลังสนใจ
จำเป็นต้องเก็บข้อมูลในเรื่องนั้นเพื่อนำมาศึกษา ซึ่งข้อมูลที่ได้มานั้นจะประกอบไปด้วย
1.ส่วนข้อมูลที่เป็นความจริง (Truth)
2.ส่วนที่เป็นค่าคลาดเคลื่อน (Error)
โดยความคลาดเคลื่อนนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
2.1 ความคลาดเคลื่อนอย่างเป็นระบบ (Systematic error) หรือ อคติ (Bias)
เกิดจากการวัดไม่เหมาะสม เครื่องชั่งไม่ถูกต้อง วิธีการสุ่มไม่ถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งสามารถลดความคลาดเคลื่อนในส่วนนี้ได้โดยการเลือกใช้ระเบียบวิธีวิจัยให้เหมาะสม
2.2 ความคลาดเคลื่อนอย่างสุ่มหรือสิ่งรบกวน (random error)
เป็นความคลาดเคลื่อนที่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างสุ่มในขั้นตอนการวัดและการสุ่ม ใช้สถิติเพื่อลดความความเคลื่อนเพื่อควบคุมหรือทำให้น้อยลง
ดังนั้น นักวิจัยควรให้ความสำคัญในการลดการคลาดเคลื่อนในงานวิจัยให้มีน้อยที่สุด เพื่อให้เกิดความแม่นยำ (precision) ความน่าเชื่อถือของงานวิจัยยิ่งขึ้นครับ
การใช้สถิติเพื่อค้นหาความจริงเพื่อตอบคำถาม (Research Question) ในงานวิจัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น